วิธีเตรียมดินปลูกข้าว How to prepare soil for planting rice. แบบใหม่ ที่สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวได้มากกว่าไร่ละ 1000 กิโดลกรัม วิธีการปลูกข้าวแบบนี้เป็นวิธีการที่เรามักทำกันอยู่แล้ว แต่สภาพของการทำนาข้าว ซึ่งส่วนมากเป็นข้าว กข. หรือข้าวนาปรัง ทำให้เรามักเร่งรีบในการเตรียมการเรื่องดิน ซึ่งทำให้เราเสียโอกาสในการสร้างความสามารถในการหาอาหารให้กับต้นข้าว เนื่องจากเรามักจะทำการเตรียมดิน หรือทำเทือก ในนาข้าว กันแบบ ลวกๆ ทำให้หน้าดินที่เราใช้หว่านข้าวไม่ลึก รากของข้าวจึงหาอาหารได้แค่ผิวหน้าดิน กินได้แต่ปุ๋ยข้าว ที่เราใส่ให้เท่านั่นธาตุอาหารในดิน รากข้าวไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้ ข้าวของเราจึงให้ผลผลิตไม่เต็มที่
เรามาดูวิธีการเตรียมดินในแปลงนาข้าวแบบปราณีต กัน ว่าทำอย่างไร
การเตรียมดินในนาก่อนหว่านข้าว หรือ ดำนา ไม่ว่าเราจะใช้รถไถนาเดินตาม หรือ รถไถนาแบบนั่งขับ แบบใช้โรตารี่ จอบหมุน เราควรทำการปรับความลึกให้ได้ความลึกของหน้าดินที่มากกว่าปกติ ถ้าเราสามารถเตรียมดินในแปลงนาข้าวในช่วงที่แปลงนาแห้งได้ก็จะเป็นการดีมาก ให้เราใช้ผาน 3 ในการไถครั้งแรก เพื่อทำการสลายหน้าดินให้ในนาให้มีความร่วนซุย หลังจากนั้นให้เราทำการหว่านปุ๋นเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 ในอัตรา 4 ไร่ ต่อ กระสอบ พร้อมกับใส่ปุ๋ยคอกเช่นมูลไก่ไข่ มูลสุกร ให้หลีกเลี่ยงการใช้มูลจากสัตว์กินพืช เนื่องจาก มูลสัตว์กินพืชจะทำให้ต้นข้าวโตแต่ลำต้นเพียงอย่างเดียวทำให้ข้าวล้มง่าย หลังจากนั้นใช้ผาน 7 ไถอีกรอบ ก่อนไขน้ำเข้านา แล้วใช้รถไถเล็กทำเทือก เพื่อทำการหว่านแบบน้ำตรม หรือดำนาด้วยเครื่องดำนาต่อไป
ในการเตรียมดินในแปลงนาข้าวสิ่งสำคัญก็คือการปรับโครงสร้างของดินให้มีความลึกมากพอที่รากของข้าวจะแผ่ขยายลงไปได้ลึกมากที่สุด และสามารถหาอาหารได้มากโดยที่เราให้อาหารเสริม หรือปุ๋ยตามปกติ
วิธีการปลูกข้าวด้วยการเน้นการเตรียมดินแบบนี้ถ้าจะให้ผลดีควรเลือกพันธุ์ข้าวที่มีอายุประมาณ 120- 140 วัน เช่น พันธุ์ข้าวหอมประทุม ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แตกกอดี และมีระแง้ถี่มาก ร่วมกับการใช้เทคนิคการให้ปุ๋ยทางใบสูตร 11-0-45 ฉีดพ่นเร่งการสร้างระแง้ในรวงข้าวเมื่อข้าวอายุ 55-65 วันด้วยก็จะช่วยให้ผลผลิตข้าวของเราเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จากประสบการณ์ในการทำนาข้าวแบบนี้ แม้ว่าเป็นนาดินทราย ข้าวก็สามารถให้ผลผลิตมากกว่า 1200 กิโลกรัม ลองเอาวิธีการปลูกข้าว แบบนี้ไปใช้ดูครับ
Showing posts with label ปุ๋ยข้าว. Show all posts
Showing posts with label ปุ๋ยข้าว. Show all posts
Thursday, September 22, 2011
Wednesday, July 27, 2011
ปุ๋ยข้าว Rice Fertilizer เ่ร่งการแตกระแง้ให้รวงข้าว
วิธีการใส่ปุ๋ยข้าว ให้ได้ผลผลิตสูงๆ ทำอย่างไร วันนี้้ มีเคล็ดลับในการทำนาปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมแบบก้าวกระโดด
การทำนาให้ได้ผลผลิตข้าวเปลือกเป็นจำนวนไร่ละประมาณ 1 ตัน สามารถทำได้แน่นอนครับ ไม่ต้องแปลกใจ ซึ่งการเพิ่มผลผลิตข้าวให้ได้มากนั้นมีปัจจัยในการปลูกข้าวไม่กี่อย่างดังนี้
เรื่องแรกเลยเราต้องทำการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี ให้ได้เสียก่อน การใช้เมล็ดพันธุ์ที่ดีสามารถทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแน่นอน ดูง่ายๆ ถ้าเราเลือกปลูกข้าวนาปี กับข้าว กข. แข่งกัน แนนอนว่าข้าวพันธุ์ กข. ย่อมให้ผลผลิตสูงกว่าแน่นอน หรือ ในสายพันธุ์ข้าว กข. ถ้าเราเลือกปลูกข้าวพันธุ์หอมประทุม เราก็จะได้ผลผลิตประมาณไร่ละ 1000 กิโลกรัม ดังนั้นการตัดสินใจใช้พันธุ์ข้าวที่ดีย่อมส่งผลต่อการเพิ่มผลผลิตข้าวแน่นอน
ปัจจัยต่อมา การเตรียมแปลงนา และวิธีการปลูกข้าว ที่ได้ผลดี นั้น เราต้องจัดการแปลงปลูกข้าวให้ดี วิธีที่ดีที่สุด ในการปลูกข้าวก็ตือการหว่านข้าวแบบนาน้ำตรม รองลงมาก็คือการดำนาข้าว ด้วยต้นกล้าอ่อนๆ อายุกล้าไม่ควรเกิน 20 วัน ครับ ส่วนมาก แล้วการดำนา เรามักใช้กล้าข้าวที่มีอายุ มากกว่า 1 เดือน ทำให้ได้ต้นข้าวที่แก่ ไม่เหมาะในการตั้งท้องให้ผลผลิต
การใส่ปุ๋ยข้าว เรื่องของปุ๋ยข้าวมีส่วนสำคัญมาก ใส่ปุ๋ยข้าวผิด แทนที่จะได้เมล็ดข้าวกับได้ฟางข้าว แทน หลักใกการใส่ปุ๋ยข้าวนั้นให้ใช้หลักการใส่ปุ๋ยแบบใส่ทีละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง จะทำให้ข้าว ได้ปุ๋ยไปบำรุงลำต้นได้เต็มที่
ทีนี้มาเข้าเรื่องวิธีการใสปุ๋ยข้าวเพื่อเร่งการแตกระแง้ให้รวงของข้าว เพื่อเพื่มจำนวนเมล็ดข้าวให้มากต่อ 1 รวง ทำอย่างไร ถ้าเราปลูกข้าว กข ให้เรา นับเวลาช่วงประมาณ 55- 60 วัน ให้ใส่ปุ๋ยยูเรีย ในอัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วฉีดพ่นด้วย ปุ๋ยทางใบสูตร 11-0-52 ในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 200 ลิตร ต่อ 4-5 ไร่ หลังจากนั้นช่วงข้าวตากเกษร ให้ทำการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบสูตรเดิมอีกทีเป็นการเร่งน้ำนมให้กับเมล็ดข้าว ให้อ้วนใหญ่ มีน้ำหนักมาก
การใส่ปุ๋ยเร่งระแง้วิธีนี้ ถ้าหาจะใช้กับข้าวนาปี ให้ใส่ ในช่วงวันที่ 15-20 กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงวันที่มีการเปลี่ยนแปลงของช่วงแสง จากกลางวันยาว เป็นกลางวันสั้น ข้าวนาปีจะเริ่มผลิ ตาดอกเพื่อตั้งท้องในช่วงนี่ของทุกปี หลังจากนั้น ให้ ตามด้วยการฉีดปุ๋ยทางใบช่วงข้าวกำลังผ่าหลาม หรือ เริ่มมีรวงโผล่ออกมาจากท้อง อีกที
วิธีการใส่ปุ๋ยข้าวแบบนี้ สามารถทำให้เราได้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นจากเดิม มาก 20- 60 % เลยที่เดียว ลองไปใช้ดูครับ
การทำนาให้ได้ผลผลิตข้าวเปลือกเป็นจำนวนไร่ละประมาณ 1 ตัน สามารถทำได้แน่นอนครับ ไม่ต้องแปลกใจ ซึ่งการเพิ่มผลผลิตข้าวให้ได้มากนั้นมีปัจจัยในการปลูกข้าวไม่กี่อย่างดังนี้
เรื่องแรกเลยเราต้องทำการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี ให้ได้เสียก่อน การใช้เมล็ดพันธุ์ที่ดีสามารถทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแน่นอน ดูง่ายๆ ถ้าเราเลือกปลูกข้าวนาปี กับข้าว กข. แข่งกัน แนนอนว่าข้าวพันธุ์ กข. ย่อมให้ผลผลิตสูงกว่าแน่นอน หรือ ในสายพันธุ์ข้าว กข. ถ้าเราเลือกปลูกข้าวพันธุ์หอมประทุม เราก็จะได้ผลผลิตประมาณไร่ละ 1000 กิโลกรัม ดังนั้นการตัดสินใจใช้พันธุ์ข้าวที่ดีย่อมส่งผลต่อการเพิ่มผลผลิตข้าวแน่นอน
ปัจจัยต่อมา การเตรียมแปลงนา และวิธีการปลูกข้าว ที่ได้ผลดี นั้น เราต้องจัดการแปลงปลูกข้าวให้ดี วิธีที่ดีที่สุด ในการปลูกข้าวก็ตือการหว่านข้าวแบบนาน้ำตรม รองลงมาก็คือการดำนาข้าว ด้วยต้นกล้าอ่อนๆ อายุกล้าไม่ควรเกิน 20 วัน ครับ ส่วนมาก แล้วการดำนา เรามักใช้กล้าข้าวที่มีอายุ มากกว่า 1 เดือน ทำให้ได้ต้นข้าวที่แก่ ไม่เหมาะในการตั้งท้องให้ผลผลิต
การใส่ปุ๋ยข้าว เรื่องของปุ๋ยข้าวมีส่วนสำคัญมาก ใส่ปุ๋ยข้าวผิด แทนที่จะได้เมล็ดข้าวกับได้ฟางข้าว แทน หลักใกการใส่ปุ๋ยข้าวนั้นให้ใช้หลักการใส่ปุ๋ยแบบใส่ทีละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง จะทำให้ข้าว ได้ปุ๋ยไปบำรุงลำต้นได้เต็มที่
ทีนี้มาเข้าเรื่องวิธีการใสปุ๋ยข้าวเพื่อเร่งการแตกระแง้ให้รวงของข้าว เพื่อเพื่มจำนวนเมล็ดข้าวให้มากต่อ 1 รวง ทำอย่างไร ถ้าเราปลูกข้าว กข ให้เรา นับเวลาช่วงประมาณ 55- 60 วัน ให้ใส่ปุ๋ยยูเรีย ในอัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วฉีดพ่นด้วย ปุ๋ยทางใบสูตร 11-0-52 ในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อน้ำ 200 ลิตร ต่อ 4-5 ไร่ หลังจากนั้นช่วงข้าวตากเกษร ให้ทำการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบสูตรเดิมอีกทีเป็นการเร่งน้ำนมให้กับเมล็ดข้าว ให้อ้วนใหญ่ มีน้ำหนักมาก
การใส่ปุ๋ยเร่งระแง้วิธีนี้ ถ้าหาจะใช้กับข้าวนาปี ให้ใส่ ในช่วงวันที่ 15-20 กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงวันที่มีการเปลี่ยนแปลงของช่วงแสง จากกลางวันยาว เป็นกลางวันสั้น ข้าวนาปีจะเริ่มผลิ ตาดอกเพื่อตั้งท้องในช่วงนี่ของทุกปี หลังจากนั้น ให้ ตามด้วยการฉีดปุ๋ยทางใบช่วงข้าวกำลังผ่าหลาม หรือ เริ่มมีรวงโผล่ออกมาจากท้อง อีกที
วิธีการใส่ปุ๋ยข้าวแบบนี้ สามารถทำให้เราได้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นจากเดิม มาก 20- 60 % เลยที่เดียว ลองไปใช้ดูครับ
Thursday, January 28, 2010
วิธีการปลูกข้าว ไม่ให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล มาทำลาย ข้าว ใน แปลงนา ของเรา
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เป็นศัตรูพืชที่สำคัญของคนทำนาปลูกข้าว ชาวนาทุกคนรู้จักแมลงชนิดนี้ดี เพราะบางทีแมลงชนิดนี้สร้าง ความเสียหายได้ในชั่วข้ามคืน ถึงกับหมดเนื้อหมดตัว เรามาทำความรู้จัก เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล กันก่อน
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล มีลักษณะเป็นแมลงขนาดเล็ก 2-3 มิลลิเมตรสีน้ำตาล มีรูปร่าง 2 ลักษณะ คือ ชนิดปีกยาว (macropterous form) และชนิดปีกสั้น (bracrypterous form) มีชื่อ ภาษาอังกฤษว่า Brown planthoppeพ และชื่อวิทยาศาสตร์: Nilaparvata lugens (Stal) ) เป็นแมลงศัตรูพืช ชนิดปากดูด โดยมักทำลาย ข้าว โดยดูดน้ำเลี้ยงจากต้นข้าวทุกระยะการเจริญเติบโตจนทำให้ข้าวแห้งตาย เป็นจุดๆ ในแปลงนา และขยายตัวเป็นวงกว้าง ออกไปตามปริมาณของเพลี้ยกระโดดที่เพ่ิมขึ้น ทำให้บริเวณที่มีเพลี้ยเกาะอยู่ มีลักษณะคล้ายใบโดนน้ำร้อนลวก ใบเหลือง แดงและต้นข้าวตาย หากข้าวที่ถูกดูดกินน้ำเลี้ยงไม่ตาย เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้เกิดโรคใบหงิก หรือโรคจู๋ ข้าวไม่ออกรวง สร้างความเสียหาย แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างมาก
วิธีการป้องกันเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลไม่ให้มาทำลายต้นข้าวในแปลงนาที่เราปลูกมีหลายวิธีการ แต่ในที่นี้จะแนะนำวิธีการ แบบง่ายๆ แต่เรา ไม่ค่อยจะทำกัน เรียกว่าเป็นการ ป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ
วิธีแรก เริ่มจากการเตรียมแปลงนาปลูกข้าวให้สะอาด ปราศจากวัชพืช ซึ่งเป็นที่อาศัยของแมลงศัตรูข้าว เนื่องจากในบางครั้งหลังจากเราเก็บเกี่ยงผลผลิตข้าว รุ่นก่อนหน้านี้แล้ว อาจมีแมลงที่เป็นศัตรูของข้าวอาศัยอยู่ เราต้องตัด และเผาทำลายทิ้งให้หมด ให้เผาเฉพาะ วัชพืชตามคันนา ส่วนฟางข้าว ให้หมักด้วยจุินทรีย์สำหรับย่อยสลายตอซัง และฟางข้าว ดินในนาของเราจะได้มีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น
วิธีที่สอง การหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ใช้ อัตราส่วน 30- 40 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ ในบางแปลงปลูกข้าว ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวมากถึง 60 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ สิ้นเปลืองเมล็ดพันธุ์โดยใช่เหตุ ไม่ควรมากกว่านี้ เนื่องจากจะทำให้ ต้นข้าวขึ้นอย่าง แออัด หนาแน่นเกินไป แสงแดดส่องลงไปไม่ถึง โคนต้นข้าว ทำให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลชอบมาอาศัยและวางไข่ และดูดน้ำเลี้ยงต้นข้าว รวมทั้งทำให้การเชื้อรา ได้ง่ายๆ
วิธีที่สาม การใส่ปุ๋ยให้กลับแปลงนาปลูกข้าว ควรแบ่งระยะการใส่เป็นช่วงๆ หากเป็นไปได้ แนะนำให้ใส่ 4 ระยะ ของการเจริญเติบโตของข้าวดังนี้
ระยะที่ 1 หลังจากไขน้ำเข้านา ข้าวอายุ 10-20 วัน ใส่ปุ๋ย ยูเรีย แบบ หว่านลงแปลงนาข้าว
ระยะที่ 2 ข้าวอายุ 35- 45 วัน ใส่ ปุ๋ยเต็มสูตร ที่ีมี N P K โดยให้ ปุ๋ยตัวแรก สูงที่สุดและไล่ตามมา ต่ำสุด ที่ตัวท้าย
ระยะที่ 3 ข้าว อายุ 55-65 วัน ใส่ปุ๋ยผสมทางใบ N และ K โดยให้ มีสูตร N ต่ำกว่า K 3-5เท่า เช่น สูตร 11-0-52 โดยการฉีดพ่นทางเครื่อง อัดแรงดัน แบบลากสาย อัตตราส่วน 1 กิโลกรัมต่อ น้ำ 200 ลิตร ซึ่งปุ๋ยสูตรนี้ จะมีส่วนทำให้ ข้าวมีการพัตนาตาดอก สร้างระแง้ เพื่อรองรับเมล็ด ออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นเคล็ดลับในการเพิ่มผลผลิตข้าว ที่ชาวนา หรือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว น้อยคนที่จะรู้ ข้อสำคัญเราต้องคาดคะเนเวลาให้เหมาะสมในช่วงที่ข้าวกำลังสร้างตา ดอก ก่อนการตั้งท้อง
ระยะที่ 4 ข้าว ตั้งท้อง ใส่ปุ๋ยผสมเต็มสูตร N P K โดยให้มี K สูงที่สุด ในจำนวน ธาตุอาหาร 3 ตัว ร่วมกับการใช้ปุ๋ยทางใบ สูตร 11-0-52
ในที่นี้ จะยัง ไม่ขอกล่าวรายระเอียดลึกๆ เกี่ยวกับ ปุ๋ยข้าว แต่ที่นำเสนอเรื่องวิธีการใส่ปุ๋ยข้าว มามากพอสมควรเพราะว่าตามปกติ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมักจะใช้ ปุ๋ย ยูเรีย( N ) เป็นจำนวนมาก ตลอดอายุ การเจริญเติบโตของข้าว ซึ่งทำให้ ต้นข้าวมีความอ่อนแอ เนื่องจากปุ๋ยยูเรีย จะไปเร่งการเจริญเติบโตทางใบและลำต้นข้าวเพียงอย่างเดียว ทำให้ใบเขียว ต้นสูง แต่ผลเสียที่ตามมาคือ แมลงแทบทุกชนิดชอบต้นข้าวที่มีลักษณะอวบอ้วนที่เกิดจากการใช้ N เกินความจำเป็น โดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดเพลี้ยกระโดด เพิ่มขึ้น หากรอดจากเพลี้ยกระโดด ข้าวที่ให้ผลผลิตระยะ ก่อนการเก็บเกี่ยว อาจล้มง่าย ซึ่งเป็นที่รู้ดีว่าหากข้าวล้มพังพาบกับพื้นนาเสียแล้ว การเก็บเกี่ยว ก็จะไม่ได้ผลลิตเต็มที่ พอๆกับการถูกทำลายด้วยเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
วิธีการวิธีการปลูกข้าว ไม่ให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลมาทำลายข้าวในแปลงนาของเรา ดังกล่าวมาเป็นวิธีการที่ต้องมีการประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสภาพแปลงนาของแต่ละคน รวมถึงสายพันธุ์ข้าวที่ทำการปลูกด้วย
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล มีลักษณะเป็นแมลงขนาดเล็ก 2-3 มิลลิเมตรสีน้ำตาล มีรูปร่าง 2 ลักษณะ คือ ชนิดปีกยาว (macropterous form) และชนิดปีกสั้น (bracrypterous form) มีชื่อ ภาษาอังกฤษว่า Brown planthoppeพ และชื่อวิทยาศาสตร์: Nilaparvata lugens (Stal) ) เป็นแมลงศัตรูพืช ชนิดปากดูด โดยมักทำลาย ข้าว โดยดูดน้ำเลี้ยงจากต้นข้าวทุกระยะการเจริญเติบโตจนทำให้ข้าวแห้งตาย เป็นจุดๆ ในแปลงนา และขยายตัวเป็นวงกว้าง ออกไปตามปริมาณของเพลี้ยกระโดดที่เพ่ิมขึ้น ทำให้บริเวณที่มีเพลี้ยเกาะอยู่ มีลักษณะคล้ายใบโดนน้ำร้อนลวก ใบเหลือง แดงและต้นข้าวตาย หากข้าวที่ถูกดูดกินน้ำเลี้ยงไม่ตาย เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้เกิดโรคใบหงิก หรือโรคจู๋ ข้าวไม่ออกรวง สร้างความเสียหาย แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างมาก
วิธีการป้องกันเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลไม่ให้มาทำลายต้นข้าวในแปลงนาที่เราปลูกมีหลายวิธีการ แต่ในที่นี้จะแนะนำวิธีการ แบบง่ายๆ แต่เรา ไม่ค่อยจะทำกัน เรียกว่าเป็นการ ป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ
วิธีแรก เริ่มจากการเตรียมแปลงนาปลูกข้าวให้สะอาด ปราศจากวัชพืช ซึ่งเป็นที่อาศัยของแมลงศัตรูข้าว เนื่องจากในบางครั้งหลังจากเราเก็บเกี่ยงผลผลิตข้าว รุ่นก่อนหน้านี้แล้ว อาจมีแมลงที่เป็นศัตรูของข้าวอาศัยอยู่ เราต้องตัด และเผาทำลายทิ้งให้หมด ให้เผาเฉพาะ วัชพืชตามคันนา ส่วนฟางข้าว ให้หมักด้วยจุินทรีย์สำหรับย่อยสลายตอซัง และฟางข้าว ดินในนาของเราจะได้มีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น
วิธีที่สอง การหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ใช้ อัตราส่วน 30- 40 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ ในบางแปลงปลูกข้าว ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวมากถึง 60 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ สิ้นเปลืองเมล็ดพันธุ์โดยใช่เหตุ ไม่ควรมากกว่านี้ เนื่องจากจะทำให้ ต้นข้าวขึ้นอย่าง แออัด หนาแน่นเกินไป แสงแดดส่องลงไปไม่ถึง โคนต้นข้าว ทำให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลชอบมาอาศัยและวางไข่ และดูดน้ำเลี้ยงต้นข้าว รวมทั้งทำให้การเชื้อรา ได้ง่ายๆ
วิธีที่สาม การใส่ปุ๋ยให้กลับแปลงนาปลูกข้าว ควรแบ่งระยะการใส่เป็นช่วงๆ หากเป็นไปได้ แนะนำให้ใส่ 4 ระยะ ของการเจริญเติบโตของข้าวดังนี้
ระยะที่ 1 หลังจากไขน้ำเข้านา ข้าวอายุ 10-20 วัน ใส่ปุ๋ย ยูเรีย แบบ หว่านลงแปลงนาข้าว
ระยะที่ 2 ข้าวอายุ 35- 45 วัน ใส่ ปุ๋ยเต็มสูตร ที่ีมี N P K โดยให้ ปุ๋ยตัวแรก สูงที่สุดและไล่ตามมา ต่ำสุด ที่ตัวท้าย
ระยะที่ 3 ข้าว อายุ 55-65 วัน ใส่ปุ๋ยผสมทางใบ N และ K โดยให้ มีสูตร N ต่ำกว่า K 3-5เท่า เช่น สูตร 11-0-52 โดยการฉีดพ่นทางเครื่อง อัดแรงดัน แบบลากสาย อัตตราส่วน 1 กิโลกรัมต่อ น้ำ 200 ลิตร ซึ่งปุ๋ยสูตรนี้ จะมีส่วนทำให้ ข้าวมีการพัตนาตาดอก สร้างระแง้ เพื่อรองรับเมล็ด ออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นเคล็ดลับในการเพิ่มผลผลิตข้าว ที่ชาวนา หรือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว น้อยคนที่จะรู้ ข้อสำคัญเราต้องคาดคะเนเวลาให้เหมาะสมในช่วงที่ข้าวกำลังสร้างตา ดอก ก่อนการตั้งท้อง
ระยะที่ 4 ข้าว ตั้งท้อง ใส่ปุ๋ยผสมเต็มสูตร N P K โดยให้มี K สูงที่สุด ในจำนวน ธาตุอาหาร 3 ตัว ร่วมกับการใช้ปุ๋ยทางใบ สูตร 11-0-52
ในที่นี้ จะยัง ไม่ขอกล่าวรายระเอียดลึกๆ เกี่ยวกับ ปุ๋ยข้าว แต่ที่นำเสนอเรื่องวิธีการใส่ปุ๋ยข้าว มามากพอสมควรเพราะว่าตามปกติ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมักจะใช้ ปุ๋ย ยูเรีย( N ) เป็นจำนวนมาก ตลอดอายุ การเจริญเติบโตของข้าว ซึ่งทำให้ ต้นข้าวมีความอ่อนแอ เนื่องจากปุ๋ยยูเรีย จะไปเร่งการเจริญเติบโตทางใบและลำต้นข้าวเพียงอย่างเดียว ทำให้ใบเขียว ต้นสูง แต่ผลเสียที่ตามมาคือ แมลงแทบทุกชนิดชอบต้นข้าวที่มีลักษณะอวบอ้วนที่เกิดจากการใช้ N เกินความจำเป็น โดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกำจัดเพลี้ยกระโดด เพิ่มขึ้น หากรอดจากเพลี้ยกระโดด ข้าวที่ให้ผลผลิตระยะ ก่อนการเก็บเกี่ยว อาจล้มง่าย ซึ่งเป็นที่รู้ดีว่าหากข้าวล้มพังพาบกับพื้นนาเสียแล้ว การเก็บเกี่ยว ก็จะไม่ได้ผลลิตเต็มที่ พอๆกับการถูกทำลายด้วยเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
วิธีการวิธีการปลูกข้าว ไม่ให้เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลมาทำลายข้าวในแปลงนาของเรา ดังกล่าวมาเป็นวิธีการที่ต้องมีการประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสภาพแปลงนาของแต่ละคน รวมถึงสายพันธุ์ข้าวที่ทำการปลูกด้วย
Subscribe to:
Posts (Atom)